สำหรับเด็กที่ประสบอันตรายหรือเจ็บปวดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะทางออนไลน์หรือออฟไลน์ การเพิ่มขึ้นของเวลาหน้าจออาจทำให้ความปวดร้าวของพวกเขาแย่ลง” เธอกล่าวในแถลงการณ์เนื่องในวันอินเทอร์เน็ตปลอดภัย (Safer Internet Day) การปิดโรงเรียน การเว้นระยะห่างทางกายภาพ บริการที่ลดลง และความเครียดที่เพิ่มขึ้นต่อครอบครัวที่เปราะบางอยู่แล้ว ทำให้หยุดชะงัก และลดมาตรการป้องกันบางอย่างที่มีให้พวกเขา”
นักล่าทางเพศที่แฝงตัวอยู่ในโลกออนไลน์ เนื่องจากโรคระบาด เด็กๆ ได้เห็นโลกของพวกเขาแคบลง
เหลือเพียงบ้านและหน้าจอคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อื่นๆ อย่างไรก็ตาม อินเทอร์เน็ต “ไม่ได้สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กเป็นสำคัญ” ตามโครงการริเริ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ ซึ่งทำงานเพื่อกำจัดการแสวงหาประโยชน์ทางเพศและ
การล่วงละเมิดทางเพศเด็กทางออนไลน์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง มีคนประมาณ 750,000 คนที่ต้องการเชื่อมต่อกับเด็กทางออนไลน์เพื่อจุดประสงค์ทางเพศ ซึ่งเป็นความท้าทายที่ใหญ่และซับซ้อนมาก จนไม่มีใครสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวคนเดียว” Global Partnership to End Violence Against Childrenกล่าว ในการสนับสนุน Safer Internet Day ในขณะเดียวกัน UNICEF อ้างหลักฐานที่บ่งชี้ว่าการใช้เวลาออนไลน์มากขึ้นทำให้เด็กทำกิจกรรมกลางแจ้งน้อยลง คุณภาพการนอนหลับลดลง อาการวิตกกังวลเพิ่มขึ้น และพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
โลกที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับเด็กๆ หน่วยงานของ UN เชื่อว่า Safer Internet Day เป็นโอกาส
ในการจินตนาการถึงโลกออนไลน์ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับเด็กๆ ทางออนไลน์ โดยจัดลำดับความสำคัญและปกป้องความเป็นอยู่ที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ “สำหรับตัวเด็กและเยาวชนเอง การเตรียมพร้อมสำหรับโลกที่สดใสและเชื่อมต่อถึงกันมากขึ้นหลังโควิด หมายถึงการช่วยสร้างสมดุลระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์ การดูแลความปลอดภัย ความสัมพันธ์เชิงบวกกับคนรอบข้าง และการเข้าถึงการสนับสนุนที่พวกเขาต้องการ” นางสาวโฟร์กล่าวว่า
ยูนิเซฟได้แนะนำการดำเนินการ 3 ด้าน เริ่มด้วยการสนับสนุนให้รัฐบาลฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพ การศึกษา และบริการสังคมเกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-19 ต่อสวัสดิภาพของเด็ก และเพื่อให้มั่นใจว่าบริการหลักสำหรับการคุ้มครองเด็กและสุขภาพจิตยังคงเปิดให้บริการในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ และอื่น ๆ
ผู้ปกครองควรได้รับการสนับสนุนเพื่อช่วยให้บุตรหลานเข้าใจถึงความเสี่ยงของการออนไลน์และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล พวกเขายังต้องตื่นตัวต่อสัญญาณความทุกข์ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ โรงเรียนยังมีบทบาทด้วยการอนุญาตให้เด็กเข้าถึงบริการให้คำปรึกษาในโรงเรียน รวมถึงบริการเสมือนจริงและนโยบายที่ตอบสนองต่อความกังวลด้านสุขภาพจิตและการคุ้มครองเด็ก